top of page

COFFEE

แนวโน้มอุตสาหกรรมกาแฟที่สำคัญสำหรับปี 2566 และหลังจากนั้น  กาแฟทั่วโลกเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะเติบโตแม้ว่าส่วนอื่นๆ ของตลาดส่งออกจะชะลอตัวก็ตาม Mordor Intelligence ระบุอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 4.65% ในปี 2566-2561 โดยยุโรปเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้บริโภค และอเมริกาใต้เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด
กาแฟ RTD ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าโซดา และการเติบโตของกาแฟเย็นที่สอดคล้องกันในฐานะเครื่องดื่มยอดนิยมกำลังช่วยกระตุ้นสถานะพรีเมียมของตลาดนี้ ไม่มีอะไรตอบโจทย์วิถีชีวิตแสนเร่งรีบของคนไทยได้ดีไปกว่า “กาแฟพร้อมดื่ม” หรือ “Ready-to-Drink (RTD) Coffee”

The Key Coffee Industry Trends

แนวโน้มอุตสาหกรรมกาแฟที่สำคัญสำหรับปี 2566 และหลังจากนั้น

กาแฟทั่วโลกเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะเติบโตแม้ว่าส่วนอื่นๆ ของตลาดส่งออกจะชะลอตัวก็ตาม Mordor Intelligence ระบุอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 4.65% ในปี 2566-2561 โดยยุโรปเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้บริโภค และอเมริกาใต้เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด

ผลกระทบของ Covid-19 ต่อประเทศผู้ส่งออกกาแฟ

จนถึงตอนนี้เราได้มุ่งเน้นไปที่ประเทศนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ (แม้ว่าประเทศต่างๆ เช่น ออสเตรเลียจะมีตลาดส่งออกกาแฟที่กำลังขยายตัวเป็นของตนเอง) แต่แล้วผู้ปลูกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลกล่ะ? องค์กรต่างๆ ในทุกจุดของห่วงโซ่อุปทานกาแฟทั่วโลกควรทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นที่จุดกำเนิดของผลิตภัณฑ์ของตน เพื่อคาดการณ์ว่าปีการเงินที่จะมาถึงและปีต่อๆ ไป อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ผู้ส่งออกกาแฟชั้นนำของโลก

  • บราซิล

  • เวียดนาม

  • โคลอมเบีย

  • ฮอนดูรัส

  • อินโดนีเซีย

5 เทรนด์ธุรกิจกาแฟ

​1. กาแฟพร้อมดื่ม Ready-to-Drink (RTD)

กาแฟ RTD ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าโซดา และการเติบโตของกาแฟเย็นที่สอดคล้องกันในฐานะเครื่องดื่มยอดนิยมกำลังช่วยกระตุ้นสถานะพรีเมียมของตลาดนี้ ไม่มีอะไรตอบโจทย์วิถีชีวิตแสนเร่งรีบของคนไทยได้ดีไปกว่า “กาแฟพร้อมดื่ม” หรือ “Ready-to-Drink (RTD) Coffee” ด้วยจุดเด่นที่เป็นกาแฟหลากชนิดที่ชงพร้อมดื่ม บรรจุใส่ขวดแก้วเป็นอย่างดี แถมหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปหรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ตอบโจทย์ช่วงเวลาที่ผู้คนที่ไม่สะดวกเข้าร้านกาแฟ นอกจากธุรกิจกาแฟเจ้าดังใหญ่ ๆ ที่วางขายกาแฟพร้อมดื่มที่ร้านสะดวกซื้อแล้ว ปัจจุบันเรายังเห็นร้านกาแฟเล็ก ๆ เริ่มทำกาแฟพร้อมดื่มเป็นของตัวเองแล้วนำมาวางขายหน้าร้านหรือช่องทางเดลิเวอรีมากขึ้นแล้วเช่นกัน

2. Specialty Coffee สู่การยกระดับคุณภาพขึ้นอีกขั้น

ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงซื้อกาแฟเบลนด์ (กาแฟเบลนด์ คือ การนำเมล็ดกาแฟ 2 พันธุ์ขึ้นไปมาผสมเข้าด้วยกัน) ตามกระแสหลัก แต่ก็ยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น (และความเต็มใจที่จะจ่าย) สำหรับกาแฟคุณภาพสูงที่มีคะแนนการชงมากกว่า 80 คะแนน เพื่อให้สอดคล้องกับรายงานเกี่ยวกับผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสังคมซึ่งมองหาประสบการณ์ที่แท้จริง ผู้บริโภคจะจ่ายค่ากาแฟพร้อมกับเรื่องราวดีๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

3. กาแฟส่งถึงบ้านสำหรับสมาชิก Subscription มาแรง

อุตสาหกรรมหนึ่งที่กำลังเติบโตคือรูปแบบการสมัครสมาชิกกาแฟ ซึ่งซัพพลายเออร์ส่งกาแฟถึงมือผู้บริโภคโดยตรง แม้ว่าแนวคิดนี้จะมีมาไม่กี่ปี แต่การล็อกดาวน์จากโควิด-19 ก็นำมาซึ่งแนวคิดนี้ เนื่องจากผู้บริโภคมองหาวิธีแก้ไขกาแฟแม้ว่าจะติดอยู่ที่บ้านก็ตาม

การเข้าถึงซอฟต์แวร์กาแฟและการผสานรวมที่ง่ายดายกับแพลตฟอร์ม e-Commerce ทำให้ผู้คั่วกาแฟสามารถให้บริการกาแฟแบบสมัครสมาชิกและการขายตรงถึงผู้บริโภคในวงกว้างในปี 2020

ยังต้องติดตามกันต่อไปว่าเทรนด์นี้จะซ้อนทับกันอย่างไรเมื่อเราเข้าสู่โลกหลังยุคโควิด-19 และกลับคืนสู่สภาพปกติ สำหรับคนส่วนใหญ่ ก่อนหน้านี้กาแฟไม่ถือเป็นสินค้าที่เข้าถึงยาก อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าต้องการเบลนด์ของแท้และมีคุณภาพสูง รูปแบบของการชงกาแฟระดับพรีเมียมแบบหยิบด้วยมือเพื่อส่งถึงหน้าประตูบ้านของพวกเขาอาจยังคงสถานะระดับพรีเมียมต่อไป และด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งที่พึงปรารถนา

4. เปิดประสบการณ์สัมผัสไร่กาแฟถึงแหล่งปลูก

เพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในอุตสาหกรรมกาแฟ การปลูก การขาย และการต้มกาแฟอาจไม่ใช่เพียงอนาคตเดียวของตลาดกาแฟ เนื่องจากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรดูเหมือนจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากขึ้นสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ ผลกระทบจากโควิดในปัจจุบัน

การท่องเที่ยวเชิงกาแฟในลักษณะนี้อาจมองได้ว่าคล้ายกับอุตสาหกรรมไวน์ ซึ่งการเยี่ยมชมและทัวร์ไร่องุ่นเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งนี้เชื่อมโยงอีกครั้งกับแนวคิดที่ว่าผู้บริโภคต้องการประสบการณ์ที่แท้จริง โดยผู้คนยินดีที่จะหาผู้ปลูกกาแฟและธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อทัวร์ ชิม และเรียนรู้ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ

ส่วนใหญ่ แนวโน้มนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ปลูกกาแฟ ผู้ปลูกในประเทศผู้ส่งออกอาจต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยว แม้ว่าการปลูกองุ่นจะแสดงให้เราเห็นว่าผู้ปลูกในเกือบทุกภูมิภาคจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

5. การเติบโตของตลาดอุปกรณ์ชงกาแฟถ้วยเดียว

เมื่อ “สถานการณ์โควิด-19” ทำให้การชงกาแฟดื่มเองที่บ้านเปลี่ยนรูปแบบไป ผู้บริโภคยินยอมจ่ายเงินซื้อ “อุปกรณ์ชงกาแฟ” ในราคาที่สูงขึ้นเพื่อคำเดียวคือ "คุณภาพ" ...คุณภาพของกาแฟในแต่ละแก้วที่ต้องมาพร้อมกลิ่นและรสชาติที่ใกล้เคียงกับกาแฟชงจากฝีมือบาริสต้าประจำร้านรวงคาเฟ่ที่เคยเข้าไปใช้บริการเป็นประจำ และจากปัจจัยเรื่องการเว้นระยะห่างและไม่ใช้สิ่งของร่วมกันโดยเฉพาะในสำนักงานออฟฟิศ ทำให้ ตลาดอุปกรณ์ชงกาแฟแบบแก้วเดียว (single-cup coffee) มีอัตราการเติบโคค่อนข้างสูงทีเดียว

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติขมนิยมมากสำหรับมนุษย์ทุกเพศทุกวัย กาแฟมีส่วนประกอบของคาเฟอีน ที่ให้สรรพคุณชูกำลังในมนุษย์ กาแฟสามารถนำเสนอได้ในหลายรูปแบบ การต้มหยด ซึม หรือต้มจากเครื่องต้มกาแฟนิยมดื่มทั้งร้อนและเย็น ดื่นได้โดยไม่ต้องเติมส่วนผสมปรุงแต่งรสชาติ หรือเพิ่มความอร่อยกลมกล่อมด้วยการเติมนํ้าตาล นํ้าผึ้ง นม ครีม ผสมด้วย เมล็ดกาแฟคั่วซึ่งได้จากต้นกาแฟ หรือมักเรียกว่าเมล็ดกาแฟ นอกจากนี้กาแฟยังเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีการส่งออกเป็นอันดับที่หกของโลก สำหรับประเทศไทยปลูกกาแฟ 2 สายพันธ์ เช่น กาแฟโรบัสต้า 98% ปลูกทางภาคใต้เช่น ชุมพร และกระบี่ กาแฟอราบิก้า 2% จะปลูกตามดอยทางภาคเหนือ กาแฟอราบิก้าที่มีชื่อเสียงคือกาแฟดอยช้าง ปลูกที่เชียงราย เป็นกาแฟที่ได้จากกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล และรสชาติดีเทียบเคียงกับกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก

การผลิตเมล็ดกาแฟได้จากการบ่มและคั่ว เมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการผลิตแล้วจำเป็นต้องได้รับการเก็บรักษาอย่างดีเพื่อคงรสชาติ มีความสด กลิ่นหอม ซึ่งอุณภูมิและแสงสว่างถือเป็นปัจจัยทางธรรมชาติที่สำคัญในการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ

 

  • กาแฟโรบัสต้า (Robusta Coffee) มีกลิ่นและรสชาติแบบเข็มถึงใจตามแบบฉลับกาแฟแท้ กาแฟโรบัสต้ามีคาเฟอีนมากกว่า 2% เหมาะที่จะทานในรูปแบกาแฟดำ และทำการแปรรูปเป็นกาแฟสำเร็จรูป เน้นเข็มๆ ต้องโรบัสต้

  • กาแฟอราบิก้า (Arabica Coffee) มีรสชาติกาแฟที่นุ่มนวล กลมกล่อมดื่มง่ายไม่ขมมาก มีคาเฟอีน 2% หรือน้อยกว่า​


กาแฟจำนวนมากยังนำมาผลิตและจำหน่ายเพื่อตอบโจทย์มนุษย์ที่มีเวลาน้อยไม่มีเวลาชงเอง เราเรียกว่ากาแฟสำเร็จรูป ผลิตโดยทำให้แห้งจนกลายเป็นผงที่สามารถละลายได้อย่างรวดเร็วในนํ้าหลังจากที่ทำการผลิตกาแฟแล้วต้องทำการเก็บบรรจุ พร้อมทั้งต้องรู้วันผลิตและหมดอายุของผลิตภัณฑ์กาแฟควบคู่กันไป

การผลิตเมล็ดกาแฟได้จากการบ่มและคั่ว เมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการผลิตแล้วจำเป็นต้องได้รับการเก็บรักษาอย่างดีเพื่อคงรสชาติ มีความสด กลิ่นหอม ซึ่งอุณภูมิและแสงสว่างถือเป็นปัจจัยทางธรรมชาติที่สำคัญในการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ
bottom of page