top of page

การเติบโตของตลาดการมาร์กด้วยเลเซอร์ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ (Growth of laser marking market in packaging industry)

Writer's picture: แอดมินแอดมิน

ตลาดการมาร์กด้วยเลเซอร์สำหรับบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยา และเครื่องสำอาง รวมถึงข้อกำหนดด้านการควบคุมคุณภาพและการติดตามสินค้า เทคโนโลยีการมาร์กด้วยเลเซอร์เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความแม่นยำ ความคงทน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มีการนำมาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดเลเซอร์มาร์กกิ้งสอดคล้องกับอัตราการเติบโตทั่วโลกที่ประมาณ 6.5% ต่อปี ซึ่งคาดว่าภายในปี 2032 ตลาดการมาร์กด้วยเลเซอร์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และการกำกับดูแลจากหน่วยงานภาครัฐที่เคร่งครัดขึ้นเกี่ยวกับการติดฉลากและการระบุข้อมูลผลิตภัณฑ์


ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดในประเทศไทย

1. ข้อกำหนดด้านการติดฉลากและกฎหมาย

ประเทศไทยมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการติดฉลากและการระบุข้อมูลผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและยา องค์การอาหารและยา (อย.) กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องมีการแสดงข้อมูลที่ชัดเจน เช่น วันผลิต วันหมดอายุ รหัสลอต และข้อมูลโภชนาการ ทำให้บริษัทต้องเลือกใช้เทคโนโลยีมาร์กกิ้งที่แม่นยำและทนทาน ซึ่งเลเซอร์มาร์กกิ้งสามารถตอบโจทย์นี้ได้ดีกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น การพิมพ์ด้วยหมึก (Inkjet) ที่อาจลบเลือนได้ง่าย

2. การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3-5% ต่อปี โดยผู้ผลิตต้องการโซลูชันการมาร์กที่สามารถพิมพ์บนวัสดุต่าง ๆ เช่น พลาสติก แก้ว โลหะ และกระดาษ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลเซอร์มาร์กกิ้งสามารถช่วยให้ผู้ผลิตสามารถสร้างเครื่องหมายที่คงทน ไม่ซีดจาง และสามารถอ่านได้ง่ายแม้ในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นหรือต้องเก็บรักษาเป็นเวลานาน


3. ความต้องการโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทยมุ่งสู่ แนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้น เพื่อลดการใช้หมึกพิมพ์และสารเคมีที่ก่อให้เกิดของเสีย เลเซอร์มาร์กกิ้งจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์แนวทาง Green Packaging เนื่องจากไม่มีการใช้หมึก ไม่ก่อให้เกิดของเสีย และใช้พลังงานต่ำกว่าระบบการพิมพ์แบบดั้งเดิม


4. การพัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรม

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค Industry 4.0 ซึ่งการใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในกระบวนการผลิตกลายเป็นเรื่องปกติ เทคโนโลยีเลเซอร์มาร์กกิ้งสามารถเชื่อมต่อกับระบบ ERP และ MES ในโรงงาน ทำให้การติดตามสินค้าและการจัดการคุณภาพมีความแม่นยำมากขึ้น


เทคโนโลยีเลเซอร์มาร์กกิ้งที่ได้รับความนิยมในไทย (laser marking technology in Thailand)

  1. Fiber Laser – เหมาะสำหรับมาร์กกิ้งบนวัสดุโลหะ เช่น ฝาขวดอลูมิเนียม เครื่องครัว และบรรจุภัณฑ์กระป๋อง

  2. CO2 Laser – ใช้สำหรับการมาร์กบนวัสดุที่ไม่ใช่โลหะ เช่น พลาสติก กระดาษ กล่องลูกฟูก และขวดแก้ว

  3. UV Laser – เหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น ยาและเครื่องสำอาง เนื่องจากสามารถพิมพ์บนพื้นผิวที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย


แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจในตลาดไทย

  1. การเติบโตของตลาด SME และธุรกิจสตาร์ทอัพ – ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการโซลูชันการมาร์กคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ การพัฒนาเครื่องเลเซอร์มาร์กกิ้งขนาดเล็กที่รองรับธุรกิจ SME จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจ

  2. การส่งออกสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้น – การใช้เลเซอร์มาร์กกิ้งเพื่อระบุ รหัส QR บาร์โค้ด และฉลากภาษาต่างประเทศ ช่วยให้สินค้าที่ผลิตในไทยสามารถแข่งขันในตลาดสากลได้ง่ายขึ้น

  3. การลงทุนในเทคโนโลยีอัตโนมัติและ AI – เทรนด์ AI และ IoT ช่วยให้ระบบเลเซอร์มาร์กกิ้งสามารถตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์ ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต


บทสรุป

ตลาดการมาร์กด้วยเลเซอร์ (laser marking) สำหรับบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงผลักดันจากกฎระเบียบที่เข้มงวด ความต้องการด้านคุณภาพ ความยั่งยืน และการพัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติ การลงทุนในระบบเลเซอร์มาร์กกิ้งไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับสากลอีกด้วย

📌 ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดนี้ควรให้ความสำคัญกับการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม การพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืน และการลงทุนในระบบอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต



ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดนี้ควรให้ความสำคัญกับการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม การพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืน และการลงทุนในระบบอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating
bottom of page