ทำไมอุตสาหกรรมถุงมือยาง (Rubber Glove) ในไทยจึงเลือกใช้ “เครื่องพิมพ์ TIJ + หมึก SIGMA” สำหรับการพิมพ์ LOT และวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์

ทำไมอุตสาหกรรมถุงมือยาง (Rubber Glove) ในไทยจึงเลือกใช้ “เครื่องพิมพ์ TIJ + หมึก SIGMA” สำหรับการพิมพ์ LOT และวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์

อุตสาหกรรมถุงมือยางของประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก ทั้งกลุ่ม การแพทย์ อาหาร โรงงานอุตสาหกรรม และงานป้องกันความปลอดภัย (PPE) ความต้องการในตลาดระดับสากลทำให้ผู้ผลิตต้องยกระดับมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ ทั้งด้าน คุณภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลสำคัญอย่าง รหัส LOT, วันผลิต (MFG) และ วันหมดอายุ (EXP) ที่ต้องพิมพ์อย่างชัดเจนและติดทนนานบนซองถุงมือ

จากภาพรวมในโรงงานถุงมือยาง พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีการพิมพ์อย่างมากในช่วง 3–5 ปีที่ผ่านมา โรงงานจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนจากระบบดั้งเดิม เช่น Hot Stamp หรือ ระบบ Ink Roller แบบลูกกลิ้ง ไปสู่ ระบบพิมพ์ Thermal Inkjet Printer (TIJ) เนื่องจากความคมชัดสูง ควบคุมง่าย และเหมาะกับวัสดุฟิล์มทุกชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมถุงมือ เช่น PE, PP, CPE, LDPE, และฟิล์มพิเศษแบบเคลือบลามิเนต

วิวัฒนาการของระบบพิมพ์ในอุตสาหกรรมถุงมือยาง (rubber glove)

1. ระบบในอดีต: Hot Stamp / Ink Roller

ข้อจำกัดที่พบในโรงงานก่อนการใช้ TIJ ได้แก่

• ไม่สามารถพิมพ์ความละเอียดสูง

• เปลี่ยนบล็อกหรือเพลทยุ่งยาก

• พิมพ์ผิดตำแหน่งง่าย

• เครื่องจักรมีความร้อน ส่งผลต่อฟิล์มบาง

• ไม่เหมาะกับไลน์ที่ต้องการความเร็วสูง

• พิมพ์บาร์โค้ด / QR ไม่ได้

ทำให้หลายโรงงานเริ่มมองหาระบบที่ยืดหยุ่นกว่าและรองรับมาตรฐานใหม่ ๆ

2. ระบบปัจจุบัน: Thermal Inkjet Printer (TIJ) – ความนิยมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ระบบ TIJ ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมถุงมือยางทั่วประเทศไทย เพราะมีจุดเด่น:

• ความคมชัดระดับ 600 DPI มองเห็นชัดแม้ฟิล์มใสหรือฟิล์มเงา

• เปลี่ยนข้อความได้ทันที ผ่านหน้าจอระบบสัมผัส

• ไม่ต้องบำรุงรักษามาก (แทบไม่มีชิ้นส่วนสึกหรอ)

• รองรับความเร็วสูงตามไลน์ผลิตถุงมือ

• ใช้หมึกได้หลากหลาย สำหรับพื้นผิวฟิล์มทุกชนิด

• ต้นทุนต่อการพิมพ์ต่ำ เมื่อเทียบกับระบบ CIJ ในหลายกรณี

หนึ่งในหมึกที่โรงงานระดับสากลเลือกใช้มากที่สุดคือ SIGMA Solvent-based Ink จาก KAO Collins, USA

เหตุผลที่โรงงานถุงมือยางเลือกใช้หมึก SIGMA (Solvent Base) จาก KAO Collins, USA

หมึก SIGMA ถูกพัฒนาสำหรับงานพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์พลาสติกโดยเฉพาะ ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมถุงมือยางได้สมบูรณ์แบบ ทั้งด้านคุณภาพการเกาะพื้นผิวและความทนทานต่อสภาพแวดล้อม

ข้อดีหลักของหมึก SIGMA

1. การยึดเกาะยอดเยี่ยมบนฟิล์มทุกประเภท

หมึก SIGMA สามารถเกาะบน

• PE

• PP

• CPE

• OPP

• ฟิล์มลามิเนต

• ฟิล์มหยิบง่าย (Easy-peel)

ได้ดีกว่าหมึก TIJ ทั่วไป ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมโรงงานถุงมือยางต้องเลือกหมึกชนิดนี้

2. แห้งเร็วมาก (Fast Drying Ink)

ไลน์ผลิตถุงมือยาง (Rubber Glove) มีความเร็วสูง หมึกต้องแห้งภายในเสี้ยววินาทีเพื่อลดการเลอะหรือหลุดลอก หมึก SIGMA ถูกออกแบบให้แห้งเร็วเป็นพิเศษ ทำให้ไม่เกิดปัญหา:

• ตัวหนังสือเบลอ

• พิมพ์ซ้อน

• ติดผิวฟิล์มอีกชั้นเมื่อซองทับกัน

3. ความทนทานสูง ไม่หลุดง่าย

หลังการพิมพ์ หมึกต้องทนต่อ

• แรงเสียดสี

• ความชื้น

• ความร้อนจากการซีล

• การขนส่งระยะไกล

SIGMA ผ่านการทดสอบในอุตสาหกรรมสากลว่าเหมาะกับงานผลิตถุงมือที่ต้องส่งออกทั่วโลก

4. มาตรฐานระดับโลกจาก KAO Collins, USA

KAO Collins เป็นผู้นำด้านหมึก TIJ ของโลก ได้รับความเชื่อถือจาก

• โรงงานการแพทย์

• โรงงานบรรจุภัณฑ์อาหาร

• โรงงานอุตสาหกรรมความปลอดภัย (PPE)

มาตรฐานระดับโลกนี้ช่วยเสริมภาพลักษณ์คุณภาพให้กับผู้ผลิตถุงมือไทยในตลาดนานาชาติ

5. ความคมชัดสูง อ่านง่าย แม้มี QR / LOT / บาร์โค้ด

SIGMA ให้คอนทราสต์สูง ตัวหนังสือเข้มชัด ทำให้ตอบโจทย์โรงงานที่ต้องการ:

• LOT

• EXP

• QR Code

• Data Matrix

• Serial Number

ตามมาตรฐานใหม่ ๆ ของอุตสาหกรรมแพทย์และสินค้าส่งออก

สรุป: TIJ + SIGMA คือโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับบรรจุภัณฑ์ถุงมือยางยุคใหม่

อุตสาหกรรมถุงมือยางในไทยกำลังเข้าสู่ยุคที่ต้องให้ความสำคัญกับ คุณภาพ ความปลอดภัย และการตรวจสอบย้อนกลับ มากขึ้น เทคโนโลยีการพิมพ์ที่เคยใช้ในอดีตไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบัน ทำให้โรงงานจำนวนมากหันมาเลือก:

✓ เครื่องพิมพ์ Thermal Inkjet Printer (TIJ)

เพื่อความคมชัดสูง ใช้งานง่าย และรองรับไลน์ผลิตความเร็วสูง

✓ หมึก SIGMA จาก KAO Collins, USA

เพื่อความคงทน ยึดเกาะดีเยี่ยม และคุณภาพการพิมพ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล

นี่คือเหตุผลที่บรรจุภัณฑ์ถุงมือยางชั้นนำในประเทศไทยไว้วางใจระบบนี้สำหรับการพิมพ์ข้อมูลสำคัญบนบรรจุภัณฑ์ของตน