top of page

กลยุทธ์พิชิตการติดฉลากอาหารที่ไม่ได้คุณภาพ | Strategies for overcome poor food labelling

กลยุทธ์พิชิตการติดฉลากอาหารที่ไม่ได้คุณภาพ

ข้อผิดพลาดในการติดฉลากสินค้าอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงทั้งต่อแบรนด์และผู้บริโภคได้ เว้นแต่จะมีการแก้ไขโดยตรงจากอุตสาหกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

ความปั่นปวนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมค้าปลึก ได้กระตุ้นให้ภาคธุรกิจตื่นตัวถึงประโยชน์จากการปรับปรุงข้อมูลสินค้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อผลสำเร็จในเชิงพาณิชย์ แม้ว่าผลประโยชน์ด้านการเงินจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบริษัทได้ แต่เหตุติดฉลากไม่ถูกต้องได้ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อยไปกว่า การมีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำสำหรับผู้บริโภค

ความจริงที่รุ่นแรงและผลลัพธ์ที่เลวร้าย

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการติดฉลากที่ไม่ตรงกับความจริง (Mislabeling) ก่อให้เกิดผลกระทบต่างๆ มากมาย นับตั้งแต่การเสียผลกำไรไปจนถึงการสุญเสียชีวิต สหภาพยุโรปจึงได้ออกกฎข้อบังคับการแสดงข้อมูลอาหารสำหรับผู้บริโภค ในเดือนธันวาคมปี 2014 โดยกำหนดให้มีการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสารก่อภูมิแพ้ 14 ชนิดทั้งบนผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุหีบห่อและบนบรรจุภัณฑ์อาหารทั่วไป

­

นับตั้งแต่มีการเปิดตัวบทลงโทษใหม่ในปี 2015 โทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตามกฏหมายทางด้านความปลอดภัยของอาหารที่กำหนดไว้ คือ โทษปรับโดยไม่จำกัดจำนวนเงิน หรือโทษจำคุกระยะเวลาไม่เกินหกเดือนหรือทั้งจำทั้งปรับ ดังเช่น ในกรณีมีการเสียชีวิตของผู้บริโภครายหนึ่ง ซึ่งเสียชีวิตในปี 2014 หลังจากเกิดปฏิกิริยาแพ้อย่างรุ่นแรงเฉียบพลันจากการบริโภคถั่วลิสง เจ้าของร้านอาหารที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ถูกจำคุกเป็นเวลา 6 ปี ในข้อหากระทำการโดยประมาทอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตเนื่องจากจากใช้ผงถั่วที่มีส่วนผสมของถั่วลิสง ซึ่งมีราคาถูกกว่า แทนการใช้ผลอัลมอนด์

จำนวนเงินรวมของการเรียกคืนสินค้า (Recall)

ในปี 2018 ประเทศอังกฤษมีการเรียกคืนสินค้าจำนวน 109 รายการ เนื่องจากมีการติดฉลากที่ได้แสดงรายละเอียดส่วนผสม หรือแสดงสารก่อภูมิแพ้ที่ไม่ถูกต้อง สูตรการคำนวณที่นักวิชาการเสนอในบทความ เรื่อง เศรษฐศาสตร์การตรวจสอบย้อนกลับเพื่อลดต้นทุนการเรียกคืนผลิตภัณฑ์อาหาร (Economics of traceability for mitigation of food recall costs)

ผลกระทบทางอ้อมก้อเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากผลกระทบทางการเงินในการเรียกคืนสินค้า บริษัทอาจต้องเสียผลประโยชน์อื่นๆ ยิ่งไปกว่าค่าใช้จ่ายในการเรียกคืน ผู้เชี่ยวชาญบางท่านให้ความเห็นว่าอาจมีค่าใช้จ่ายมากถึง 80 เปอเซ็นต์หลังจากกระบวนการเรียกคืนทางกายภาพสิ้นสุดลง อันเนื่องมากจากค่าปรับ ค่าธรรมเนียมในการฟ้องร้องคดี การสูญเสียยอดขาย ความเสียหายต่อภาพลักษณ์ ตลอดจนมูลค่าหุ้นในตลาดที่ลดลง เป็นต้น

กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ

วิธีสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าข้อมูลสินค้าที่แสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์นั้นมีความถูกต้อง คือ การเข้าถึงลักษณะที่จำเป็นในสองแง่มุม คือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมและการเปลี่ยนแลงทางด้านกระบวนการ โดยทั้งสองส่วนสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ

การเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรม

1. มีความรับผิดชอบร่วมกันมากขั้น การติดฉลากสินค้าที่ต้องไม่ใช่ข้อปฏิบัติเฉพาะของบริษัทใดเพียงบริษัทเดียว แต่เป็นข้อควรปฏิบัติร่วมกันของอุตสหกรรมทั้งหมด ทุกบริษัทควรมีความรับผิดชอบในการผลักดันมารฐานการดำเนินงานให้สูงที่สุดเท่าที่จะจำเป็นได้ ในเรื่องของความปลอดภัยของผู้บริโภค การรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า และการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับประเด็นทางด้านองค์กรและสังคมจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นได้

2. การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องมากขึ้น รากฐานสำคัญของความรับผิดชอบร่วมกันคือ การเจรจาที่เปิดกว้างในเชิงให้คำปรึกษา ดังที่เราได้เห็นแล้ว่า ข้อผิดพลาดของการติดฉลากสินค้าอาจนำไปสู่ผลกระทบในระดับความรุนแรงต่างๆ ได้ ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจหมดไปหากมีการพัฒนาความร่วมมือทั่งซัพพลายเชนได้ดียิ่งขึ้น


การเปลี่ยนแปลงทางด้านกระบวนการ

3. ระบบอัตโนมัติ (Automation) ข้อดีอย่างหนึ่งจากข้อดีหลากหลายประการของกระบวนการอัตโนมัติคือ การไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทำให้เราสามารถใช้เวลาไปกับการมุ่งทำสิ่งอื่นๆ ได้ การรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลผ่านรูปแบบง่ายๆ และผสมผสานระบบการจัดการข้อมูลที่เป็นอัตโนมัติทำให้ซัพพลายเออร์และผู้ค้าปลึกมีเวลามากขึ้นในการทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม กิจกรรมดังกล่าวอาจเป็นการตรวจสอบความถูกต้อง และความสอดคล้องของข้อมูลที่บันทึก รวมถึงการให้ความสำคํญต่อการเสริมสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

4. แนวปฏิบัติทั่วไป และแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล ปัจจุบันมีข้อมูลสินค้ามากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ที่แสดงข้อมูลไม่ถูกต้องและไม่สอดคล้องกัน นับตั้งแต่ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือขาดหายไปตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ไปจนถึงข้อมูลที่มีรูปแบบแตกต่างกันจากผลิตภัณฑ์หนึ่งไปอีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง เช่น ความแตกต่างในระบบเมตริก และระบบอิมพีเรียลสำหรับการชั่งน้ำหนักและวัดขนาดของสินค้า

แม้ว่าการสร้างมาตรฐานของวิธีการแสดงข้อมูลสินค้าจะได้รับการเผยแพร่และเป็นที่ต้องการอย่างชัดเจน แต่วิธีการในการปฏิบัติจริงนั้นยังคงห่างไกลจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ การมีรูปแบบวิธีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลและการกรอกข้อมูลที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ด้วยภาษาที่ใช้ร่วมกันในการนำเสนอและเผยแพร่ จะช่วยลดข้อผิดพลาดในการแสดงส่วนประกอบของสินค้าลงได้อย่างมาก ซึ่งจะช่วยรักษาความมั่นคงของสินค้าและตราสินค้าได้



Cr. : G1 Thailand

82 views0 comments
bottom of page